Haijai.com


แคมช่องคลอดหลวมหย่อนคล้อย


 
เปิดอ่าน 33560

คืนความอ่อนเยาว์ให้ “น้องสาว” ดั่งวัยแรกรุ่น

 

 

ปัญหาช่องคลอดหลวม ไม่ฟิต รวมถึงอวัยวะเพศยับย่น ไม่เต่งตึง เป็นเรื่องคาใจของผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 30 ปี ขึ้นไป และผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตร ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ช่องคลอดหลวมและอวัยวะเพศไม่สวยงามได้มากกว่า มีหลายคนที่ประสบกับปัญหานี้อยู่ แต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร และไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไงดี แนะนำก่อนว่าอย่าอายที่จะเรียนรู้และปรึกษาแพทย์ เพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก

 

 

ช่องคลอดหลวมหรือภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน

 

ช่องคลอดหลวมเป็นการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน ทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า “อวัยวะอุ้งเชิงกรานหย่อน” หรือ “กระบังลมหย่อน” หมายถึง การเคลื่อนหรือหย่อนของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานลงมาต่ำกว่าปกติ ได้แก่ มดลูกผนังช่องคลอด หรือทั้งสองอย่าง บางครั้งอาจหย่อนมากจนโผล่พ้นปากช่องคลอดออกมาภายนอกได้

 

 

ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช่องคลอดหลวมหรืออุ้งเชิงกรานหย่อนที่นับเป็นสาเหตุสำคัญอันดับแรก คือ การคลอดบุตร เนื่องจากในขณะที่มีการเบ่งคลอดและในขณะที่ทารกเคลื่อนผ่านช่องคลอด จะทำให้ช่องคลอดถูกยืดออก โดยเฉพาะถ้าทารกตัวใหญ่ คลอดยาก รวมทั้งกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดไม่แข็งแรงพอ ก็จะยิ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บและเกิดความหย่อนคล้อยของช่องคลอดได้ การมีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยและสม่ำเสมอ มีโอกาสที่ช่องคลอดจะขยายมากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือมีเพศสัมพันธ์น้อยครั้ง คนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะในกลุ่มของโรคที่เพิ่มความดันในช่องท้อง เช่น ไอเรื้อรัง หอบ โรคกล้ามเนื้ออ่อนตัว หย่อนคล้อย หรือคนที่ท้องผูกเป็นประจำ เนื่องจากแรงดันในช่องท้องจะไปดันให้บริเวณช่องคลอดหย่อนคล้อยได้ อีกหนึ่งสาเหตุก็คือวัยทอง นอกจากความเสื่อมที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นแล้ว กล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดจะมีการตอบสนองต่อฮอร์โมน ดังนั้น เมื่อผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วัยทอง ซึ่งเป็นวัยที่ฮอร์โมนหมด ก็จะทำให้ช่องคลอดหย่อนคล้อยได้เร็วมากกว่าคนปกติทั่วไป

 

 

แนวทางการรักษาช่องคลอดหลวมหรือภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน

 

1.การปรับพฤติกรรม โดยการลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน เช่น ลดโอกาสในการเพิ่มความดันในช่องท้อง โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันอาการไอจามเรื้อรัง ดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ อย่ายกของที่มีน้ำหนักมาก ไม่ปล่อยให้อ้วน แต่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น อายุ ความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ กรรมพันธุ์ การตั้งครรภ์และการคลอดตามธรรมชาติ

 

 

2.การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เป็นการทำให้ช่องคลอดกระชับด้วยตัวเอง โดยการขมิบช่องคลอด (Kegal Exercise) อย่างสม่ำเสมอ หลักการคือทำให้กล้ามเนื้อที่พยุงช่องคลอดมีความแข็งแรงขึ้นป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น รวมทั้งลดอาการปัสสาวะเล็ดได้ด้วย โดยให้นับ 1 ถึง 3 แล้วคลายออก ทำวันละ 3 เวลา ประมาณ 50-100 ครั้งในแต่ละช่วงเวลา ภายใน 4-6 เดือน ช่องคลอดจะมีความกระชับมากขึ้น

 

 

3.การใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงในช่องคลอด เรียกว่า “ห่วงพยุง” (Passary) โดยทำจากซิลิโคนและมีหลากหลายขนาดและรูปแบบหลักการคือ ใส่เข้าไปในช่องคลอด เพื่อช่วยค้ำยันอวัยวะภายในช่องคลอดไม่ให้หย่อนลงมา โดยผู้ป่วยสามารถใส่และถอดได้ด้วยตัวเอง ผลการรักษาขึ้นกับระยะอาการของผู้ป่วยด้วย ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด แต่ข้อเสียคือต้องคอยดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์เป็นประจำ

 

 

4.การกระชับช่องคลอดด้วยเลเซอร์ LVT (Laser Vaginal Thightening) เป็นการใช้ Er:YAG Laser ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูให้ช่องคลอดมีความกระชับมากขึ้น โดยไม่ทำให้อวัยวะสึกหรอ ความร้อนของเลเซอร์จะทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัวลงในทันที ทำให้เยื่อบุสั้นลงและหนาตัวขึ้น เนื้อเยื่อเกร็งและหดตัวลง นอกจากนั้นยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผลลัพธ์สุดท้ายช่องคลอดดูอ่อนเยาว์ขึ้น กระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น

 

 

5.การผ่าตัดกระชับช่องคลอดหรือรีแพร์ เป็นการผ่าตัดโดยใช้มีดตัดเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดที่หย่อนคล้อย และมีการเลาะเนื้อเยื่อด้านในบางส่วนมาปิดใหม่ ทำให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลงและกระชับมากขึ้น ข้อเสียคือมีโอกาสในการเกิดพังผืดค่อนข้างมาก และยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้ เช่น ไม่สามารถใช้มีดเข้าไปผ่าตัดเนื้อเยื่อในบางบริเวณที่มีความซับซ้อนได้ จึงทำให้ผลการผ่าตัดไม่ค่อยประณีต

 

 

แคมยับย่นไม่เต่งตึง

 

แคม หรือ ลาเบียม (Labium) เป็นอวัยวะเพศหญิงที่อยู่ภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของช่องสังวาส โดยสี ขนาดและลักษณะของแคมมีหลากหลายในผู้หญิงแต่ละคน ซึ่งเป็นความแตกต่างเฉพาะบุคคล บางคนแคมเล็กมากจนเกือบไม่มี แต่บางคนอาจอวบอูมและโหนกออกมา และอาจเชื่อมโยงกับกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน เช่น สีของแคมที่มีความแตกต่างกันตามเชื้อชาติ เป็นต้น ลักษณะของแคมมีอยู่ 2 ชนิด คือ แคมเล็กและแคมใหญ่ แคมเล็ก (แคมใน) มีลักษณะเป็นกลีบผิวหนังที่อ่อนนุ่มสองกลีบ อยู่ถัดจากแคมใหญ่เข้าไปข้างในและอยู่ข้างปากช่องคลอด ขนาดมีตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ล้นออกมาภายนอกแคมใหญ่ บริเวณที่ยอดซึ่งถูกปกปิดด้วยเนื้อเยื่อคลุม ส่วนแคมใหญ่ (แคมนอก) จะมีลักษณะผิวหนัง ขึงแต่ละข้างของช่องสังวาสเอาไว้ ในวัยรุ่นแคมใหญ่จะเริ่มมีขนหัวหน่าวตามธรรมชาติขึ้นมาปกคลุม เมื่อยืดเท้าชิดกันแคมจะปกปิดส่วนอื่นๆ ของในบริเวณช่องสังวาสอย่างมิดชิด สีผิวของแคมใหญ่มีลักษณะใกล้เคียงกับสีผิวส่วนใหญ่ของแต่ละคน แต่ผิวหนังด้านในมักเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลอ่อน ปัญหาแคมยับย่นไปเต่งตึงนี้มักมาคู่กับช่องคลอดหลวม เพราะส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุเดียวกัน ซึ่งได้แก่ การคลอดลูก ที่อาจมีผลทำให้แคมเล็กเกิดการฉีดขาด การมีเพศสัมพันธ์บ่อยและสม่ำเสมอ ทำให้เกิดการเสียดสีของเนื้อเยื่อมากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์น้อยครั้ง และเป็นความแตกต่างเพาะบุคคลที่มีมาแต่กำเนิด

 

 

แนวทางการรักษาแคมยับย่นไม่เต่งตึง

 

โดยส่วนใหญ่แคมนอกมักจะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก แต่อาจพบได้ว่าแคมไม่ค่อยนูน แฟบแบน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (Filler) เช่น กรดไฮยาลูรอนิกหรือไขมันตนเอง เพื่อให้แคมมีลักษณะอวบอูมมากขึ้น ใช้เวลาในการฉีดประมาณ 30 นาที และมีผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปี หรือการเสริมด้วยถุงซิลิโคน ซึ่งวิธีการนี้ต้องทำการผ่าตัด เพื่อเสริมถุงซิลิโคนเข้าไปด้านในของแคมนอก ดังนั้น จึงต้องทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็สามารถดึงกระชับแคมนอกด้วยเลเซอร์ได้ มีผลข้างเคียงน้อย หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

 

หลังจากการรักษาแล้วแคม ก็จะมีลักษณะที่เต่งตึงและอวบอูมมากขึ้น ข้อควรระวังคือห้ามฉีดซิลิโคนเหลว เนื่องจากในระยะยาวซิลิโคนเหลวจะห้อยย้อยลงมาทำให้ต้องกลับมาผ่าตัดออก และการผ่าตัดแก้ไขนั้น ก็ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด เพราะซิลิโคนจะแทรกซึมไปทั่วทุกบริเวณของเนื้อเยื่อ ส่วนแคมเล็กที่ยืดยาวและยับย่นนั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดตกแต่งแคม โดยการตัดเนื้อและผิวหนังส่วนที่เกินออก แล้วเย็บซ่อมเข้าไปไปใหม่ให้มีขนาดเล็กลง ไหมที่ใช้เย็บมีทั้งไหมละลายและไหมไม่ละลาย โดยไหมที่ไม่ละลายแพทย์จะนัดให้กลับมาตัดไหมภายใน 7 วัน โดยแผลจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังการผ่าตัดประมาณ 5-7 วัน

 

 

ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมกระชับช่องคลอดและตกแต่งแคม

 

ก่อนการผ่าตัดคนไข้ต้องงดยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดประมาณ 2 สัปดาห์ แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยาและยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ การผ่าตัดสามารถทำได้โดยการฉีดยาชาเฉพาะที่ ฉีดยาให้หลับเพื่อลดความกังวลคนไข้ และการวางยาสลบ ในขั้นตอนการผ่าตัดแพทย์สามารถทำการผ่าตัดทั้งสองส่วนไปพร้อมกันได้ คือการผ่าตัดกระชับช่องคลอด โดยการเย็บช่องคลอดให้แคบขึ้น และการผ่าตัดตกแต่งแคม โดยการตัดเนื้อและผิวหนังที่เกิน การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง ขึ้นกับอาการที่ต้องแก้ไข ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป คือ มีเลือดออก แผลติดเชื้อ บวมแดง นอกจากนั้นหากแพทย์ไม่มีความชำนาญการผ่าตัดอาจเข้าไปได้แค่ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่มีความหย่อนคล้อยตั้งแต่ด้านในมาจนถึงด้านนอก ดังนั้น การผ่าตัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงขึ้นกับเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ หลังผ่าตัดในช่วง 4-7 วันแรกอาจรู้สึกตึง ระบมบริเวณแผล ควรใส่กางเกงหลวมๆ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนแผลผ่าตัด ต้องรักษาแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ สามารถอาบน้ำได้แต่อย่าให้เปียกชื้น ควรซับหรือเป่าให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำ งดมีเพศสัมพันธ์ 4-6 สัปดาห์ ระมัดระวังการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน หรือการทำกิจกรรมบางอย่างที่อาจกระทบกระเทือนแผล เช่น การเดินมากๆ การก้าวขายาวๆ การเล่นกีฬาบางชนิด การปั่นจักรยานหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

 

 

จะเห็นได้ว่าทางออกสำหรับปัญหาช่องคลอดหลวมและอวัยวะเพศไม่สวยงามนั้น มีหลากหลายวิธี ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยการปรึกษาแพทย์ สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ พิจารณาให้เหมาะสมกับปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น อายุ ความพร้อม งบประมาณ ที่สำคัญคือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์และสถานพยาบาลที่ต้องได้มาตรฐานเป็นสำคัญ เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่พึงพอใจ และตรงกับความคาดหวังมากที่สุด

(Some images used under license from Shutterstock.com.)